เบื้องหลังปาฏิหาริย์ เด็ก 4 คนหลงป่าแอมะซอน 40 วัน รอดชีวิตได้อย่างไร-
เรียกได้ว่าเป็นข่าวใหญ่ที่โด่งดังไปทั่วโลกสำหรับกรณีที่เด็ก 4 คนรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ หลังประสบเหตุเครื่องบินตก และหลงอยู่ในผืนป่าแอมะซอนอันกว้างใหญ่นานถึง 40 วัน
แต่เบื้องหลังสิ่งที่เรียกว่า “ปาฏิหาริย์” นี้ คือเรื่องของพลังใจ ภูมิปัญญา ความไม่ย่อท้อ และความร่วมแรงร่วมใจจากทุกฝ่าย ที่ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปาฏิหาริย์ ไม่ใช่โศกนาฏกรรม
ต้องเท้าความกันก่อนว่า เหตุเด็กหลงป่าแอมะซอนนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม หลังจากเครื่องบินเซสนาที่เด็ก ๆ 4 คนโดยสารมากับแม่ จากหมู่บ้านอะรารากัวราในแอมะซอนมุ่งหน้าไปยังซาน โฮเซ เดล กัววีอาเร เกิดเหตุเครื่องยนต์ขัดข้อง และตกลงในป่าแอมะซอน เป็นเหตุให้นักบิน นักบินผู้ช่วย และแม่ของเด็ก ๆ เสียชีวิต
เดิมทีเจ้าหน้าที่คิดว่าทุกคนบนเครื่องน่าจะเสียชีวิตหมดแล้ว แต่พบรอยเท้า ขวดนมเด็ก และผลไม้ป่าที่กินไม่หมด อยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ จึงประเมินว่าเด็กทั้งสี่คนน่าจะยังมีชีวิตรอดอยู่
เด็ก 4 คน รอดชีวิตปาฏิหารย์หลังเครื่องบินตกกลางป่าแอมะซอน
พบแล้ว! เด็กน้อย 4 คนรอดชีวิตเหตุเครื่องบินตก หลงป่าแอมะซอนนาน 40 วัน
เด็ก ๆ 4 คนนี้เป็นสมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์ฮุยโตโต (Huitoto) ประกอบด้วย พี่สาวคนโต เลสลี ฮาโคบอมเบร์ มูคูตุย อายุ 13 ปี, โซเลนี ฮาโคบอมเบร์ มูคูตุย อายุ 9 ปี, เทียน ราโนเค มูคูตุย อายุ 4 ปี และคริสติน ราโนเค มูคูตุย ทารก 1 ขวบ
เปโดร อาร์นุลโฟ ซานเชซ ซัวเรซ โฆษกกองกำลังพิเศษของโคลอมเบีย หนึ่งในหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิต เปิดเผยว่า ที่เด็ก ๆ ครอบครัวมูคูตุยสามารถรอดชีวิตมาได้ เป็นเพราะบนเครื่องบินมี “ฟารินญา” (farina) หรือแป้งมันสำปะหลังอยู่ราว 3 กิโลกรัม พอจะประทังชีวิตพวกเขาได้ในช่วงแรก เลสลียังสร้างที่พักอาศัยชั่วคราวจากกิ่งไม้ ยึดไว้ด้วยยางรัดผมของเธอ
“หลายวันหลังเหตุเครื่องบินตก เด็ก ๆ กินฟารินญาที่อยู่บนเครื่องบิน … และในที่สุดเมื่ออาหารหมด พวกเขาก็ตัดสินใจมองหาสถานที่ที่พวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้” ซัวเรซกล่าว
เขาเสริมว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้พวกเขารอดชีวิตคือพื้นเพที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ “ต้นกำเนิดที่เป็นชาวพื้นเมืองของพวกเขาทำให้เด็ก ๆ มีภูมิคุ้มกันต่อโรคในป่าและมีความรู้เรื่องป่า รู้ว่าอะไรควรกินอะไรไม่ควรกิน เช่นเดียวกับวิธีการหาน้ำ ทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่ ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ถ้าพวกเขาไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่อันตรายของป่าแอมะซอน”
ฟิเดนซิโอ วาเลนเซีย ปู่ของเด็ก ๆ กล่าวว่า “หลังจากที่ฟารินญาหมดลง พวกเขาก็เริ่มกินเมล็ดพืช” เช่น ผลไม้ชนิดหนึ่งที่คล้ายกับเสาวรส เรียกว่า อาวิชูเร (avichure) และบอกว่า เด็ก ๆ เป็นหนี้ชีวิตพี่สาวคนโตอย่างเลสลี ผู้คอยดูแลพวกเขาให้ปลอดภัยและมีชีวิตรอด โดยใช้ความรู้เรื่องป่าที่แม่ของเธอเคยถ่ายทอดมาให้
วาเลนเซียบอกว่า โดยปกติชาวฮุยโตโตเรียนรู้การล่าสัตว์ ตกปลา และหาของป่าตั้งแต่อายุยังน้อย และเลสลีกับโซเลนีก็มีความคุ้นเคยกับป่าเป็นอย่างดี
ดามาริส มูคูตุย ป้าของเด็ก ๆ กล่าวว่า ครอบครัวมูคูตุยจะเล่น “เกมเอาชีวิตรอด” ด้วยกันเป็นประจำเมื่อโตประมาณหนึ่ง “ตอนเราเล่น เราตั้งค่ายเหมือนค่ายเล็ก ๆ ในป่า … เลสลีรู้ว่าผลไม้อะไรที่เธอกินไม่ได้ เพราะมีผลไม้มีพิษมากมายในป่า และเธอก็รู้วิธีดูแลเด็กเล็กด้วย”
จอห์น โมเรโน ผู้นำกลุ่มกัวนาโน กล่าวว่า เด็ก ๆ ได้รับการเลี้ยงดูจากคุณย่า ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองอาวุโสที่ได้รับการเคารพนับถือจากหลายกลุ่ม “พวกเขาใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้ อาศัยความรู้จากบรรพบุรุษเพื่อความอยู่รอด”
นอกจากตัวของพวกเด็ก ๆ เองแล้ว ก็ต้องชื่นชมความพยายามของทางการโคลอมเบียและชนพื้นเมืองที่ร่วมด้วยช่วยกันเดินหน้าค้นหาเด็ก ๆ ซึ่งความจริงแล้วจุดที่พบเด็ก ๆ นั้นอยู่ห่างจากจุดที่เครื่องบินตกไปเพียง 5 กิโลเมตร แต่ที่ใช้เวลานานถึง 40 วันเป็นเพราะว่าเด็ก ๆ หวาดกลัวทหารที่ใส่เครื่องแบบ เพราะคิดว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มกบฏโคลอมเบีย ที่ก่อนหน้านี้เคยขู่พ่อของพวกเขา
ต่อมาทีมค้นหาจึงได้อัดเสียงคุณย่า เพื่อให้เด็ก ๆ วางใจ จนนำไปสู่การค้นพบในที่สุด
ประธานาธิบดีโคลอมเบีย กุสตาโว เปโตร กล่าวว่า การรอดชีวิตของเด็กทั้งสี่คนครั้งนี้จะถูกจดจำไว้ในประวัติศาสตร์ “ป่าช่วยพวกเขาไว้ พวกเขาเป็นลูกของป่า และตอนนี้พวกเขาก็เป็นลูกของโคลอมเบียด้วย”คำพูดจาก เว็บสล็อตแท้
เรียบเรียงจาก BBC / CNN / The Guardian
ภาพจาก AFP